วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Reengineering




การรีเอ็นจิเนียริ่งองค์การ ไมเคิล แฮมเมอร์ ได้เขียนหนังสือชื่อ Reengineering The Corporation ในปี 1993 ริเอ็นจิเนียริ่ง หรือ การรื้อปรับระบบ มีความหมายหลายความหมาย ดังนี้
1. หมายถึง การเริ่มต้นกันใหม่โดยไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต จนถึงปัจจุบัน การทิ้งกระบวนการที่ทำมายาวนาน แล้วหากระบวนการใหม่ที่ทันสมัย ตามที่สภาพงานในขณะนั้นต้องการ
2. หมายถึง การพิจารณาพื้นฐานและการออกแบบกระบวนการทางธุรกิจอีกครั้ง อย่างถอนรากถอนโคน (Radical redesign) เพื่อก่อให้เกิดการปรับปรุงที่ยิ่งใหญ่ ไม่ติดอยู่กับกฎข้อบังคับเดิม
3. หมายถึง รูปแบบการนำกระบวนการบริหารจัดการใหม่ มาแทนกระบวนการที่ใช้อยู่เดิมอย่างถอนรากถอนโคน เป็นการคิดค้นหากระบวนการดำเนินกิจกรรมขึ้นมาใหม่ การรีเอ็นจิเนียริ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำทั้งองค์กร ทั้งการตลาด การผลิต บุคลากร การบริการและทุกระบบ ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพแก่องค์การ ซึ่งมีหลักการในการรีเอ็นจิเนียริ่ง 3 ประการ คือ
1. กระบวนการใดที่มีปัญหาหนักมากที่สุด
2. กระบวนการใดส่งผลกระทบต่อลูกค้าของบริษัทมากที่สุด
3. ความเป็นไปได้ที่จะประสบผู้สำเร็จในการเอ็นจิเนียริ่งกระบวนการนั้น
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสำเร็จในการทำรีเอ็นจิเนียริ่ง มีดังนี้
1. ใช้กลยุทธ์เป็นตัวนำ
2. ต้องอาศัยริเริ่มและการบังคับบัญชา โดยผู้บริหารระดับสูง เพราะการรีเอ็นจิเนียริ่ง เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายหน่วยงาน
3. สร้างบรรยากาศของความเร่งด่วน
4. การออกแบบกระบวนการจากภายนอก เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จ
5. การดำเนินการกับที่ปรึกษา ควรให้เข้ามาร่วมงานตั้งแต่ต้นจนจบ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญในองค์การเพื่อถ่ายทอดให้ถึงระดับล่าง
6. การผนวกกิจกรรมของระดับบนสู่ระดับล่างกับกิจกรรมของระดับล่างขึ้นสู่ระดับบนเข้าด้วยกัน
รีเอ็นจิเนียริ่งเพื่อให้องค์กรอยู่รอด
ความจำเป็นที่จะต้องทำการรีเอ็นจิเนียริ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการรีเอ็นจิเนียริ่งได้สรุปถึงสถานการณ์หรือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่องค์กรจะต้องทำการรีเอ็นจิเนียริ่ง ดังนี้ เมื่อผลการปฏิบัติงานหรือยอดขาย (กำไร) ของธุรกิจอุตสาหกรรมต่ำกว่าคู่แข่งมาก เมื่อองค์กรเผชิญกับภาวะวิกฤต (Crisis) เช่น ส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างมาก เมื่อองค์กรต้องการผลลัพธ์ (ของการปรับรื้อระบบ) อย่างรวดเร็วและได้ผลมากกว่าเดิม 50 เปอร์เซ็นต์ หรือต้องการผลมหาศาล เมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และมีผลต่อส่วนแบ่งตลาดขององค์กร เมื่อคู่แข่งได้พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจขึ้นใหม่ได้ดำเนินการไปก่อนแล้ว ทำให้ต้องปรับปรุงไปตามด้วย
5 ขั้นตอน ของการรีเอ็นจิเนียริ่ง
ขั้นตอนที่ 1 กำหนดสิ่งที่องค์การจำเป็นต้องทำ

ขั้นตอนที่ 2 สร้างสิ่งที่เป็นแบบจำลองของการบริหารงาน ซึ่งก็คือ การกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) ที่ค่อนข้างจะเป็นไปได้ในอนาคต และมีความชัดเจน
ขั้นตอนที่ 3 ชี้ให้เห็นถึงกระบวนการหลักของการบริหารองค์การ ไม่ควรสร้างผังงานของ กระบวนการปัจจุบันเพียงแต่มองและพิจารณาเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 4 ออกแบบกระบวนการใหม่
ขั้นตอนที่ 5 การนำกระบวนการใหม่ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง

ตัวอย่างผลของการ reengineering ของไทยพาณิชย์


แพ้น้ำใจ...ไทยพาณิชย์


ปกติไม่ค่อยได้แวะเวียนเข้าไปในธนาคารใดๆ ซักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะใช้บริการธนาคารกรุงไทย เพราะใช้บัตรเครดิตเค้าอยู่ วันนี้ไปกินข้าวที่หน้ามอ. พร้อมกับลูกชาย เดินและวิ่งย่อยอาหารกลางวัน มาจนถึงธนาคารไทยพาณิชย์ในมหาวิทยาลัย เลยแวะเอาเงินไปฝากตามประสาคนเงินเหลือ (นี่ๆ ในชีวิตจริงจะมีโอกาสพูดแบบนี้บ่อยมั้ยนี่ น้ำหน้าคนอย่างฉัน หุหุ)
จำได้ว่าเป็นลูกค้าของที่นี่ตั้งแต่เข้ามาทำงานในวันแรกๆ เพราะต้องมาเปิดบัญชีเงินเดือนไว้ และจำได้อีกว่าเมื่อสองปีก่อนได้รับการบริการที่ไม่ค่อยน่าประทับใจแบบเลือกปฏิบัติของพนักงาน แต่มาวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง อยากจะยกมือไหว้ขอบคุณ คุณผู้หญิงที่เป็นคน reengineering ธนาคารไทยพาณิชย์ให้เป็นอย่างเช่น ณ วันนี้
แต่เนื่องจากเคยอ่านผ่านตามานานแล้ว เลยจำชื่อเค้าไม่ได้ จำได้แค่ว่า เป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่งเท่านั้น เอาไว้วันหลังถ้าไม่ลืม จะมา update เรื่องราวการรีเบรนและองค์กรของไทยพาณิชย์ให้ฟัง แต่วันนี้แค่เดินเข้าไปในธนาคาร มีคนช่วยเปิดประตูให้ มีพนักงานเข้าทักทาย และอาสากรอกใบฝากให้ แต่ขอกรอกเองดีกว่าเพราะไม่ได้เอาสมุดบัญชีมา ต้องมาสกดชื่อให้คนอื่นเขียนให้ก็รู้สึกเกรงใจเหมือนกัน
เมื่อพาลูกชายไปด้วย เด็กชายเลยได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เชิญไปนั่งเก้าอี้สีม่วงของเด็ก พนักงานถามว่าทานลูกอมไหมค่ะ แชทตอบว่า ไม่กินครับ มันหวานเดี๋ยวฟันหลอ พนักงานยังไม่ลดละ ถามว่าแล้วคุณแม่ทานได้ไหมค่ะ แชทตอบว่า แม่ก็กินไม่ได้ครับ เพราะกินแล้วอ้วน แป่ว!!!! เลย ไม่ต้องไปบอกรายละเอียดเค้าขนาดนั้นก็ได้ลูกชั้น!!! ทำเอาแม่อายไปเลย : P
ฝากเงินเสร็จแล้ว กำลังจะกลับ แชทมากระซิบว่า อยากได้หมี teddy สีม่วงที่ตั้งโชว์อยู่ แต่คงกระซิบดังไปหน่อย คุณผู้จัดการใหญ่และพนักงานสาวอีกสองคน เลยกรูมาหาแม่ เพื่อชี้แจงรายละเอียดของการจะได้หมีอย่างรวดเร็วและครบถ้วน แม่รับคำอย่างงงๆ ควักเงินในกระเป๋า เพื่อเปิดบัญชีให้แชท และยังต้องถูกหักเงินเดือนอีก 36 เดือน เพื่อเป็นเงินฝากสำหรับทุนการศึกษาลูก
เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วกระพริบตา ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ขณะที่รอก็มีทีวีให้ดู เสียงนางร้ายและนางเอกทะเลาะกันแว้ดๆ ในทีวี คุณพี่พนักงานผู้หญิงรีบเปลี่ยนช่องให้ทันที เกรงว่าคำด่าของนางร้าย จะระคายหูลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เค้ากำลังมุ่งมั่นจะเป็น world class กัน เลยมีการปรับเปลี่ยนกันตั้งแต่พนักงาน รวมถึงบุคลากรทุกระดับตั้งแต่บนสุดถึงล่างสุด
ทำให้ความประทับใจและประหลาดใจ เกิดกับลูกค้าหลายๆ คน รวมถึงฉันและลูกชาย ขนาดยอมเปิดบัญชีใหม่ เพื่อจะได้อุ้มหมีสีม่วงออกมาตัวหนึ่ง อยากให้องค์กรของฉันเป็นแบบนี้บ้างจัง ทุกคนมี "จิตบริการ" กันถ้วนทั่ว ไม่ใช่ว่าคนที่เต็มใจให้บริการก็ทำแทบตาย แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ คน ไม่เคยคิดจะช่วยกันเลย ให้ตายสิ!!! บ่นไปก็คงเท่านั้น ของแบบนี้มันคงอยู่ที่ "น้ำใจ" ของแต่ละคนมั้ง!!!


แหล่งที่มาของข้อมูล


วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2551

น้ำตกทีลอซู





น้ำตกทีลอซู เกิดจากลำห้วยกล้อท้อไหลมาจากผืนป่าบริเวณทิศตะวัตตกติดชายเแดนพม่า ลำน้ำทั้งสายตกลงจากหน้าผาสูงกลางป่าทึบของป่าทุ่งใหญ่ในเขตพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่มีชื่อว่า น้ำตก ทีลอซู มีความสูงประมาณ 300 เมตร เมื่อภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของน้ำตกทีลอซูปรากฎสู่สายตาแก่นักท่องเที่ยวจึงทำให้ชื่อเสียงของทีลอซูโด่งดังในเวลาอันรวดเร็ว ผู้คนมากมายต่างได้ยินเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของน้ำตกทีลอซู ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมากมายได้เข้าไปสัมผัสแล้วกลับมาบอกเล่าถึงความสวยงาม แต่เป็นที่น่าเสียดายที่น้ำตกทีลอซูที่เคยยิ่งในใหญ่ครั้งนั้นหดหายไปบ้างเนื่องจากเกิดหน้าผาถล่มเพราะฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ปริมาณน้ำมีมาก หน้าผารับน้ำหนักไม่ไหวจึงถล่มพังลงมา นั่นเป็นเวลาที่ผ่านมานานแล้ว ถึงแม้หน้าผาน้ำตกจะถล่มไปแล้วถึงสองครั้งแต่ความสวยงามของที่ลอซูที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ยังสวยงามเกินพอที่นักท่องเที่ยวจะได้เข้าไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
ปัจจุบัน น้ำตก ทีลอซู อยู่ในพื้นที่การดูแลของเขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผาง น้ำตกทีลอซูไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ เป็นเพียงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซึ่งมีกฎระเบียบการเข้าไปในพื้นที่เคร่งครัด จุดประสงค์เพื่อปกป้องป่าไว้ไม่ให้ถูกทำลายจากการเข้าไปของมนุษย์
แต่ก่อนนั้นการเดินทางเข้าไปยากลำบาก ต้องล่องแพไม้ไผ่เข้าไปจนถึงจุดหนึ่งซึ่งต้องขึ้นบกและเดินเท้าเข้าไปด้วยความยากลำบาก ต่อมาเริ่มมีถนนดินตัดเข้าไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ แต่เส้นทางก็เพียงถนนดิน เมื่อถึงฤดูฝนถนนก็จะชำรุดเสียหายยากต่อการเดินทาง ปัจจุบันความยากลำบากของการเดินทางเข้าน้ำตกทีลอซูกลายเป็นตำนานเพราะเมื่อปี พ.ศ. 2546 มีการปรับปรุงเส้นทางใหญ่ ทำเป็นถนนลูกรังอัดแน่นอย่างดีมิใช่เส้นทางที่มีแต่หล่มโคลนเหมือนแต่ก่อน ถึงแม้ถนนดีเดินทางเข้าไปง่ายแต่ความเป็นธรรมชาติยังคงถูกรักษาไว้ด้วยกฎระเบียบที่เคร่งครัด ถนนเข้าน้ำตกทีลอซูจะถูกปิดในช่วงฤดูฝนและจะเปิดให้เข้าอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน




การล่องแพ ยังเป็นการเดินทางที่เป็นอมตะสำหรับการเดินทางในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เริ่มฤดูฝนไปจนถึง 1 พฤศจิกายน เส้นทางเข้าทีลอซูถูกปิด การเดินทางเดียวที่ทำได้คือการล่องแพ แต่ก่อนใช้แพไม้ไผ่แต่ในปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้เรือยางลำใหญ่ปลอดภัยกว่าและยังเป็นการอนุรักษ์ จากตัวเมืองอุ้มผางจะต้องลงเรือยางล่องมาตามลำน้ำแม่กลอง ผ่านบ่อน้ำร้อนและแก่งต่างๆ ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือผ่านมีทัศนียภาพที่สวยงามและยังคงเป็นธรรมชาติมากๆ เมื่อล่องมาถึงครึ่งทางนักท่องเที่ยวก็จะได้เห็นความสวยงามของน้ำตกทีลอจ่อที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงลงสู่ลำน้ำแม่กลอง ถัดจากนั้นมาไม่ไกลก็จะผ่านน้ำตกสายรุ้ง หากเดินทางไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็จะเห็นรุ้งกินน้ำที่เกิดจากแสงที่ตกกระทบกับละลองน้ำของสายน้ำตก นอกจากนี้ยังมีน้ำตกริมทางให้ได้หยุดแวะเล่นน้ำกันอีกด้วย ระยะเวลาสำหรับการล่องเรือยางประมาณ 3-4 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความแรงของกระแสน้ำในแต่ละช่วงเวลา เมื่อขึ้นจากเรือยางจะต้องเดินเท้าต่อไปยังจุดกางเต็นท์พักแรมที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ประมาณ 1 กิโลเมตรแรกเป็นเส้นทางเดินผ่านป่า ช่วงที่เหลือเป็นถนนลูกรังอัดแน่น สภาพเส้นทางมีขึ้นเนินเป็นบางช่วงโดยเฉพาะช่วงแรกๆ จะเป็นการเดินขึ้นเนินเป็นส่วนใหญ่ ช่วงกลางและท้ายจะเป็นทางลงเนิน วันถัดมาจึงจะได้ชื่นชมกับความงามของน้ำตกทีลอซู ตอนเดินทางกลับก็จะต้องเดินย้อนกลับมาตามเส้นทางเดิมเพื่อกลับมาลงเรือยางล่องต่อไปยังจุดที่ลำน้ำบรรจบกับถนน แล้วขึ้นรถกลับสู่รีสอร์ที่พัก
สำหรับการเดินทางในช่วงเวลาที่ถนนเปิดให้รถเข้าจะมีการเดินทางเป็น 2 แบบ ส่วนใหญ่จะนิยมล่องเรือยางไปยังจุดที่ขึ้นบก จากนั้นก็ขึ้นรถต่อไปยังจุดกางเต็นท์ ขากลับก็นั่งรถกลับตรงไปยังรีสอร์ที่พักในตัวเมืองอุ้มผาง สบายๆ ไม่ต้องเดิน แต่ช่วงเวลานั้นจะมีนักท่องเที่ยวมากในช่วง วันหยุดโดยเฉพาะวันหยุดเทศกาลถ้าหากไปในช่วงเวลาดังกล่าวก็ต้องยอมรับสภาพว่าบรรยากาศของการแค้มปิ้งพักแรมไม่ค่อยดีเท่าไร
อีกแบบหนึ่งสำหรับผู้มีเวลาน้อยและนิยมประหยัด คือการขับรถรวดเดียวจากตัวเมืองอุ้มผางไปยังจุดกางเต็นท์ จากนั้นเดินเท้าเข้าไปเที่ยวน้ำตกแล้วขับรถกลับ
ถึงแม้ช่วงเวลานั้นเส้นทางจะเปิด นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถเข้าไปได้แต่การล่องเรือยางเป็นการเดินทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมากที่สุดเกือบ 99% ทั้งนี้เพราะการล่องเรือยางเป็นรสชาติของการเดินทางไปน้ำตกทีลอซู เหมือนการเดินทางในรุ่นแรกเริ่ม และนักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของบรรยากาศป่าเขาริมทาง เป็นการเดินทางที่คุ้มค่า